เหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 เดือน ก่อนที่การแข่งขันทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป บอลยูโร 2024 กำลังจะเริ่มขึ้น การแข่งขันจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2024 ไปจนถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2024 โดยมีประเทศเยอรมันนีเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันครั้งนี้
แน่นอนว่าทีมชาติที่แฟนบอลชาวไทยน่าจะเป็นกำลังใจมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากทีมชาติอังกฤษ เพราะนอกจากทีมเต็มไปด้วยนักเตะจากพรีเมียร์ลีกที่เป็นลีกที่มีแฟนมากที่สุดในเมืองไทยแล้ว รูปแบบการเล่นที่สนุกสนาน รวมทั้งหลายคนอยากจะให้กำลังใจนักเตะสิงโตคำรามที่ผิดหวังมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ทำให้แฟนบอลชาวไทยส่งกำลังใจให้กับทีมชาติอังกฤษกันแบบไม่ขาดสายในยูโร 2024
และจากการตรวจสอบบรรดาสปอร์ตบุ๊คส์ใหญ่ ๆ ล่าสุดและผลงานในยูโร 2024 รอบคัดเลือก ก็ต่างลงความเห็นเหมือนกันว่า ทีมชาติอังกฤษถูกยกให้เป็นตัวเต็งตีคู่มากับทีมชาติฝรั่งเศส ว่าจะคว้าแชมป์ยูโรครั้งนี้ได้
และบทความของเราจะมาวิเคราะห์และพูดคุยกันว่าทีมชาติอังกฤษนั้นจะมีโอกาสในการคว้าแชมป์หรือไปได้ไกลแค่ไหนในยูโร 2024 จากการวิเคราะห์ยูโร 2024 ตารางคะแนน หลังจากที่เฉียดไปเฉียดมาหลายครั้งก่อนหน้านี้
ทีมชาติอังกฤษและคู่แข่งในรอบแบ่งกลุ่ม
ทีมชาติอังกฤษถูกจับฉลากอยู่ในกลุ่ม C ร่วมกับสโลวาเนีย เดนมาร์กและเซอร์เบียร์ หากจะพูดกันตรง ๆ ถือว่าอังกฤษนั้นอยู่ในกลุ่มที่ไม่น่ากลัวเมื่อเทียบกับทีมใหญ่ทีมอื่น ๆ โดยเฉพาะสเปนและอิตาลีที่ถูกรวมไว้ในกลุ่มเดียวกัน ทีมเดียวที่เราคิดว่าน่าจะสร้างปัญหาให้กับอังกฤษน่าจะเป็นทีมชาติเดนมาร์ก โดยตารางบอลยูโรรอบคัดเลือกการแข่งขันนั้นมีดังต่อไปนี้
การแข่งขัน วันที่และเวลา ( ตามเวลาในประเทศไทย ) สนาม
เซอร์เบีย พบ อังกฤษ อาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2024 เวลา 03.00 น อารีน่า เอาฟชาลเก้, เมืองเกลเซนเคียร์เชน
เดนมาร์ก พบ อังกฤษ พฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2024 เวลา 22.00 น. วาลด์สตาดิโอน, เมืองแฟรงก์เฟิร์ต
อังกฤษ พบ สโลวีเนีย อังคารที่ 25 มิถุนายน 2024 เวลา 01.00 น. ไรน์ เอเนอร์กี สตาดิโอน , เมืองโคโลญจ์
เกมแรกของอังกฤษจะลงเล่นในวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน โดยพวกเขาจะเดินทางไปที่เมืองเกลเซนเคียร์เชนเพื่อพบกับเซอร์เบีย ที่จบอันดับสองของกลุ่มจีในฟุตบอลยูโร รอบคัดเลือก ตามหลังเพียงฮังการีที่เข้ารอบเป็นที่หนึ่งของกลุ่ม โดยอังกฤษยังไม่ได้พบกับเซอร์เบียร์เลยแยกทางกับมอนเตเนโกรในปี 2006
หลังจากนั้นอีก 4 วันพวกเขาจะลงเล่นในเกมสำคัญกับเดนมาร์กที่แฟรงก์เฟิร์ต ก่อนที่จะปิดท้ายเกมรอบแรกในวันอังคารที่ 25 มิถุนายนกับทีมชาติสโลวีเนีย ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาเอาชนะมาได้ในฟุตบอลโลก 2010 รอบน็อกเอาต์
หากจะดูจากขุมกำลังและประสบการณ์แล้ว ทีมชาติอังกฤษนั้นเหนือกว่าอีก 3 ทีมร่วมกลุ่ม มีเพียงเดนมาร์ก ทีมแชมป์เก่าในปี 1992 ที่นำโดยสองซุปเปอร์สตาร์จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่าง คริสเตียน อีริคเซ่น และ ราสมุส ฮอยลุนด์ เป็นตัวหลัก โดยเดนมาร์กออกสตาร์ทได้อย่างมั่นคงในปี 2024 โดยชนะและเสมอในเกมกระชับมิตรกับหมู่เกาะแฟโรและทีมร่วมฟุตบอลยูโร รอบคัดเลือก สวิตเซอร์แลนด์ตามลำดับ และไม่เสียประตูสักลูกเดียว เกมในวันที่ 20 มิถุนายนที่ทั้งสองทีมจะพบกันที่แฟรงเฟิร์ตจึงเป็นเกมที่สำคัญที่สุด และอาจจะเป็นการตัดสินว่าทีมไหนจะจบเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม
การคาดการเส้นทางของทีมชาติอังกฤษหากทีมผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ
หากผลการแข่งขันทั้งหมดในบอลยูโร 2024 เป็นไปตามการจัดอันดับโลกของฟีฟ่าและตารางคะแนนยูโร 2024 คู่ต่อสู้ของอังกฤษในรอบน็อกเอาท์ที่ได้รับการคาดการณ์คือ
-รอบ 16 ทีม: วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2024 - อังกฤษ พบ ออสเตรีย/โรมาเนีย/ตุรกี (อารีน่า เอาฟชาลเคอ, เกลเซนเคียร์เชน)
-รอบก่อนรองชนะเลิศ: วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2024 – อังกฤษ พบ อิตาลี (แมร์คัวร์ สปีล-อารีน่า, ดุสเซลดอร์ฟ)
-รอบรองชนะเลิศ: วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2024 – ฝรั่งเศส พบ อังกฤษ; คิกออฟ 20.00 น. (เวสต์ฟาเลนสตาดิโอน, ดอร์ทมุนด์)
-รอบชิงชนะเลิศ: วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2024 – สเปน vs อังกฤษ; คิกออฟ 20.00 น. (สนามโอลิมปิก เบอร์ลิน)
อังกฤษจะสามารถคว้าแชมป์ยูโร 2024 ได้หรือไม่ ?
เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจของใครหลาย ๆ คนไม่ใช่แต่ฉพาะแฟนบอลในประเทศอังกฤษเท่านั้น แต่รวมถึงแฟนบอลจากทั่วโลกว่าทำไมทีมชาติฟุตบอลอังกฤษถึงไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับนานาชาติเสียที ถึงแม้ว่าทีมจะรวมนักเตะที่มีความสามารถมากมายเอาไว้ แต่ทีมชาติอังกฤษก็ล้มเหลวในการคว้าแชมป์ระดับนานาชาติมาตั้งแต่ปี 1966 รวมเป็นระยะเวลานานถึง 58 ปี โดยแชมป์สุดท้ายที่ทรีไลออนส์คว้ามาได้คือฟุตบอลโลก 1966 ที่เอาชนะฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีตะวันตกไปได้ 4-2
ความผิดหวังของทีมชาติอังกฤษที่ใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์มากที่สุดเพิ่งจะผ่านมาเมื่อยูโร 2020 ครั้งล่าสุด โดยพ่ายแพ้ไป 3-2 ในการดวลจุดโทษ หลังจากเสมอกับอิตาลี 1-1 เมื่อหมด 120 นาที
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในอดีตที่ผ่านมาจะเต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่ในยูโร 2024 ครั้งนี้ ทีมชาติอังกฤษมีตัวนักเตะความหวังทั้งสองเจเนเรชันอย่างจู๊ด เบลลิงแฮมและแฮรี่ เคน
จู๊ด เบลลิงแฮม ตัวแทนนักเตะรุ่นใหม่ทีมชาติอังกฤษ
จู๊ด เบลลิงแฮม นักฟุตบอลชาวอังกฤษในวัยเพียง 20 ปี ได้สร้างชื่อให้กับตัวเองและได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่งในตอนนี้ แฟนบอลของอํงกฤษฝากความหวังไว้ให้กับเขาในยูโร 2024
จู๊ด เบลลิงแฮม เข้าร่วมกับทีมชุดใหญ่ของเบอร์มิงแฮม ซิตี้เมื่ออายุเพียง 16 ปี จากนั้นเบลลิงแฮมก็เซ็นสัญญากับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นบุนเดสลีกายอดเยี่ยมประจำฤดูกาลปี 2022-2023 ในขณะที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่
นักเตะชาวอังกฤษสร้างประวัติศาสตร์ในนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 2022 โดยเขากลายเป็นนักฟุตบอลอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองที่ทำประตูให้ทีมในทัวร์นาเมนต์นี้
เบลลิงแฮมได้พิสูจน์ความสามารถของเขามาหลายครั้ง โดยการรักษาตำแหน่งตัวจริงในสโมสรเรอัล มาดริดซึ่งถือว่าเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในลาลีกาในฤดูกาลนี้ โดยในตอนนี้เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดในลาลีกา หลังจากทำได้ 16 ประตูจนถึงตอนนี้
ตลอดอาชีพการงานของเขา นักเตะวัย 20 ปีได้แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้เล่นแบบบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ที่ยอดเยี่ยมเขาเก่งทั้งในเกมรับและเกมรุก และบางฝ่ายยกย่องให้เขาเป็นกองกลางที่ดีที่สุดในโลก ฤดูกาลนี้ เบลลิงแฮมทำไปแล้ว 20 ประตูและ 9 แอสซิสต์จากการลงเล่น 31 นัดในรายการต่างๆ ทุกรายการ
ความเก๋าของแฮรี่ เคน จะสามารถช่วยอังกฤษได้หรือไม่?
หลังจากใช้เวลา 19 ปีกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ แฮร์รี่ เคนกลายเป็นนักเตะที่ทำประตูได้สูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยเขายิงไป 213 ประตูตลอดอาชีพค้าแข้งในลีกชั้นนำของอังกฤษ เคนไม่เพียงแต่เป็นนักฟุตบอลที่เก่งรอบด้านเท่านั้น แต่ยังเป็นนักเตะที่คอยมองหาโอกาสในการทำประตูตลอดเวลา และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เคนคว้ารองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก 3 สมัย ซึ่งมอบให้กับผู้ทำประตูชั้นนำในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2015-2016, 2016-2017 และ 2020-2021
แม้จะมีความสามารถในการทำประตู แต่เคนยังไม่เคยได้รับถ้วยรางวัลใด ๆ เลยตลอดอาชีพนักฟุตบอลอาชีพของเขา และนั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เข้าตัดสินใจย้ายทีมไปเล่นให้กับทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในบุนเดสลีกาอย่างบาเยิร์นมิวนิค
ในฤดูกาลนี้บาเยิร์นพยายามทีมป้องกันแชมป์บุนเดสลีกา อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าจะเป็นงานยากเสียแล้ว เนื่องจากดูเหมือนว่าไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นมีคะแนนทิ้งห่างมากกว่า 13 คะแนนโดยมีเกมที่เหลืออีกไม่ถึง 10 เกม ดังนั้นหากจะพูดว่ายูโร 2024 เป็นความหวังเดียวที่เหลือของเคนก็คงจะไม่ผิดนัก
ตลอดฤดูกาล 2023-2024 กับเสือใต้ เคนทำได้ 36 ประตูและ 11 แอสซิสต์จากการลงสนาม 34 นัดในการแข่งขันและลีกต่างๆ ยูโร 2024 รวมทั้งสถิติสำหรับ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 รอบคัดเลือก
ผลงานของนักเตะจากสองเจนที่สำคัญ คือการเป็นกำลังหลักสำคัญในเกมกับอิตาลี ในรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2024 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2023 เบลลิงแฮมและเคนมีบทบาทสำคัญที่ทำให้อังกฤษสามารถเก็บได้ 3 คะแนนและเข้าป้ายเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม C ในฟุตบอลยูโร 2024 รอบคัดเลือก
ทีมชาติอังกฤษเอาชนะอิตาลีป้องกันแชมป์ยูฟ่ายูโร 3-1 ที่สนามเวมบลีย์ แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมชาติอังกฤษยิงสองประตูให้ทีมของเขา หนึ่งในนั้นคือจุดโทษ ขณะที่เบลลิงแฮมแอสซิสต์ให้มาร์คัส แรชฟอร์ดในขณะที่เขาทำประตูให้ทีมได้
ด้วยความสามารถในการทำประตูของเคน ควบคู่ไปกับความสามารถของกองกลางแบบบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ของเบลลิงแฮม แน่นอนว่าเขาอาจจะ